Open 10.00 - 20.00

รากฟันเทียม โยก อันตรายอย่างไรบ้าง?

ถึงแม้ว่าอายุการใช้งานของ รากฟันเทียม สามารถคงอยู่ไปได้ตลอดชีวิต แต่ถ้าหากคนไข้ดูแลรักษา ทำความสะอาดภายในช่องปากและฟันไม่ถูกวิธี เช่น รับประทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวเกินไป แปรงฟันไม่สะอาด ขาดการเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน และการขูดหินปูนที่ไม่ถูกวิธี สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เป็นบ่อเกิดอาการรากฟันเทียมโยก หรือรากฟันเทียมอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่างๆ ตามมาได้ โดยการใส่ รากฟันเทียม นั้น เป็นการทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป แน่นอนว่ามีความแข็งแรงกว่าฟันธรรมชาติแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เสื่อมสภาพเมื่อใช้งานไปนานๆ นั้นเอง

ฝัง รากฟันเทียม จำเป็นอย่างไร

เมื่อเกิดการสูญเสียฟันธรรมชาติไปแล้วนั้น และต้องการรักษาโดยการวิธีใช้ฟันปลอมถาวรทดแทน การฝังรากฟันเทียมจึงเป็นอีกวิธีที่ดี ซึ่งวิธีการรักษานั้นจะต้องฝังรากฟันเทียมลงไปยึดติดที่บริเวณกระดูกขากรรไกรเสียก่อน เพื่อเป็นฐานให้ตัวครอบฟันมายึดติดอีกที เนื่องจากวิธีการฝังรากเทียมนั้น สามารถทำหน้าที่สร้างความแข็งแรงและมั่นคงให้กับตัวฟัน จึงเป็นการช่วยทดแทนฟันธรรมชาติที่เสียไปได้ดีเลย

รากฟันเทียม โยกเกิดจากอะไร

รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานที่สามารถใช้งานได้อย่างน้อย 20-30 ปี หากคนไข้ดูแลรักษาปฏิบัติตามคำแนะนำจากทันตแพทย์อย่างดี แต่เมื่อใช้งานไปนานวันเข้า อาจจะหลงลืมตัว ขาดการระมัดระวังในการทกิจกรรมต่างๆ เช่น รับประทานอาหารที่มีลักษณะเหนียว แข็งอยู่เป็นประจำ มีการใช้งานแบบผิดวิธีตรงบริเวณที่ฝังรากเทียมคือ ใช้ฟันขบ เคี้ยว กัด ทำให้ได้รับแรงกระแทกที่ผิดธรรมชาติ ฟันข้างเคียงผุ เกิดการติดเชื้อลงถึงประสาทฟัน ส่งผลให้เหงือกร่น และอาการเหงือกอักเสบเนื่องมาจากมีคราบหินปูนเกาะเป็นจำนวนมาก

อาการ รากฟันเทียม โยกมีลักษณะอย่างไร

ลักษณะของอาการรากฟันเทียมโยกจะแบ่งออกเป็นดังนี้

รากฟันเทียมโยกจากอาการเจ็บป่วย คือ ผลข้างเคียงของการฝังรากฟันเทียมในระยะแรก เกิดขึ้นจากการที่รากเทียมไม่ยึดติดกับกระดูกขากรรไกร เหงือกเกิดการอักเสบติดเชื้อรุนแรง หรือการที่กระดูกขากรรไกรภายในเบ้าละลาย ซึ่งจะมีอาการจะไล่ระดับจาก การเจ็บ บวม เลือดซึม มีหนอง มีกลิ่น และถึงขั้นรากฟันเทียมหลุดออกมา

รากฟันเทียมเกิดการหลวมหรือโยกเอง คือ เกิดจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสึกหรอของวัสดุ เนื้อเยื้อของเหงือกได้รับแรงเค้นตึงมากไป จึงทำให้ฝาปิดรากเทียมคลายตัว หรือทันตแพทย์ที่ขันตัวน็อตไม่แน่นพอ

รากฟันเทียม โยกอันตรายอย่างไร

โดยระดับการอันตรายนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ทำให้เกิดการโยกเป็นหลัก คำแนะนำหากเกิดจากปัจจัยที่มาจากผลข้างเคียงของการรักษาถือว่าเป็นระดับที่อันตรายมาก ควรรีบไปพบทันตแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที หากปล่อยไว้นานจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนถ้ามาจากปัจจัยการสึกหรอของวัสดุ แม้จะไม่เกิดอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด ก็ควรต้องไปพบทันตแพทย์อย่างรวดเร็วเช่นกัน หากปล่อยไว้นานวันเข้าก็อาจจะถึงขึ้นต้องทำการรักษาใหม่

ดังนั้น อาการรากฟันเทียมโยก ที่มีทั้งแบบอาการที่เป็นอันตราย และไม่เป็นอันตราย แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นอาการแบบไหน ทางที่ดีควรรีบเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาตั้งแต่อาการแรกเริ่ม ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะผลกระทบที่จะตามมาหลังจากนั้นจะทำให้คุณพบเจอกับความยุ่งยากมากกว่าเดิม สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหารากฟันเทียมโยก หรือเกิดการอักเสบของรากฟันเทียม สามารถเข้ามาตรวจประเมินอาการได้ที่ Dentist at home มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทันตกรรมทุกแขนงพร้อมให้คำปรึกษา และทำการรักษาอย่างมืออาชีพ โดยใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัย ปลอดภัย ได้มาตรฐานเพื่อให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มได้อีกครั้ง