รากฟันเทียม ดูแลอย่างไรให้ใช้ได้นานๆ

• ทำความสะอาดทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร

  หลังรับประทานอาหารทุกครั้งควรถอดฟันเทียมออกมาทำความสะอาด โดยอาจทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงสีฟัน กับน้ำเปล่า หรือน้ำสบู่ ทำความสะอาด แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ในขณะนั้น ก็ควรล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าเพื่อให้น้ำชะล้างเศษอาหารออกไป

• หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยแปรงขนแข็ง

  แปรงขนแข็งไม่เพียงแต่จะทำให้ฟัน และเหงือกภายในช่องปากเกิดการระคายเคือง แต่การใช้แปรงที่มีขนแข็งๆ กับรากฟันเทียมก็ยังอาจทำให้เป็นรอยได้ ดังนั้นจึงควรใช้แปรงที่มีขนนุ่ม หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะจะช่วยรักษาสภาพของรากฟันเทียมไว้ได้ดีกว่า

• ไม่ควรใส่รากฟันเทียมในขณะนอนหลับ

  โดยทั่วไปแล้วทันตแพทย์จะแนะนำให้ถอดฟันเทียมเก็บก่อนเข้านอน เพื่อช่วยรักษาสภาพและยืดอายุการใช้งานให้กับฟันเทียม เนื่องจากบางคนอาจมีปัญหานอนกัดฟันหรือเคี้ยวฟันในขณะนอนหลับ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถทำให้ฟันเทียมเกิดการเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรถอดฟันเทียมทุกครั้งที่เข้านอนให้ติดเป็นนิสัย โดยเมื่อถอดฟันเทียมแล้วก็ควรนำไปแช่ในน้ำเปล่าที่มีอุณหภูมิปกติ ห้ามแช่ในน้ำร้อนเพราะอาจทำให้ฟันเทียมเกิดการผิดรูปได้

• ลดการรับประทานอาหารที่อาจส่งผลเสียต่อ รากฟันเทียม

  อาหารที่มีลักษณะแข็งจนเกินไปนั้นไม่เพียงส่งผลเสียต่อฟันเท่านั้นแต่ยังอาจทำให้ฟันเทียมที่ใส่อยู่เกิดการแตกหักได้ นอกจากนี้อาหารที่มีรสชาติหวาน หรือเหนียวจนเกินไป ก็ยังอาจทำให้ผู้ที่ใส่ฟันเทียมรู้สึกไม่สบายปาก หรือหากทำความสะอาดได้ไม่ดีก็อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคบนฟันเทียม และส่งผลเสียต่อฟันและเหงือกแท้ได้ในที่สุด

ทั้งหมดนี่ คือวิธีการดูแลรักษารากฟันเทียมให้มีอายุการใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งนอกจากการดูแลที่ดีแล้ว การหมั่นพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน ซึ่งในการเลือกรักษาทันตแพทย์เฉพาะด้านรากฟันเทียม เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรคำนึงอยู่เสมอ เนื่องจากการใส่รากฟันเทียมนั้นไม่ได้จบแค่เพียงหลังจากทำฟันเสร็จ แต่ยังมีภาวะกระดูกละลาย และอื่นๆ ที่อาจตามมาหลังจากการใส่รากฟันเทียมได้อีกด้วย

ซึ่งถ้าหากคุณกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมที่มีทันตแพทย์เฉพาะด้านฟันเทียม ที่ Dentisathome มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทันตกรรมทุกแขนงพร้อมให้คำปรึกษา และทำการรักษาอย่างมืออาชีพ โดยใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัย ปลอดภัย ได้มาตรฐานเพื่อให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มได้อีกครั้ง